เท้าความเดิมจากตอนที่แล้ว ... ได้พูดคุยกับนังโหดเรื่องเก
ผมถามเธอว่า ... ไปด้วยกันมั้ย? เราอยากให้เธอไปด้วย
ไม่ ... บ้านเราอยู่ที่นี่ ... พ่อแม่อยู่ที่นี่ ... เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ ก็อยู่ที่นี่ ... ทำงานที่นี้ก็สบายดีอยู่แล้
อือ ... ผมตอบไป
ในใจคิดว่าพอไว้แค่นี้ก่อนด
ตอนนั้นได้โทรไปปรึกษากับทา
ทางจังหวัดก็แจ้งว่า ย้ายไปที่ใหม่ก็ดี เพราะรพ.ใหม่ที่จะย้ายไปมีห
เอาล่ะ ... ได้มา 1 เหตุผลที่เข้าท่ากว่าถ่ายรู
แต่ยังเอาไปต่อรองไม่ได้ ต้องรวบรวมข้อมูลมากกว่านี้
...
เธอ ... ไปดูดวงกันมั้ย ... นังโหดถาม
ไม่อ่ะ .. ไม่เคยเชื่อ ... ผมตอบ
และก็นึกถึงเรื่องในอดีตตอน
เอาน่า ... ไปด้วยกันนะ ... หมอดูคนนี้แม่นมาก … นังโหดบอก
งั้นก็ได้ ... ผมตอบแต่ในใจคิดว่า ... เอาอีกละ แม่นอีกละ ก็ได้ กูจะท้าแม่งเอง ... ถ้ารู้จริง ไปแทงหวย ซื้อเบอร์ดีกว่ามั้ย? ...
... หลายวันต่อมา นังโหดก็พาไปหาหมอดู
หมอดูเป็นหมอดูโดยใช้ไพ่ ไพ่ที่ใช้ก็ไพ่ป๊อกเด้งธรรม
ตอนนั้นก็ขอดูเรื่องพวกทั่ว
ดวงก็ไม่มีอะไร ดีๆร้ายๆปนๆกัน
ส่วนตัวผมนั่งสังเกตไพ่อย่า
ตอนท้ายก็บอกว่าอยากดูดวงเร
แล้วก็มาดูดวงผม เริ่มต้นจากให้ผมสับไพ่ ตัดไพ่ แล้วก็หยิบไพ่ออกมา 4 ใบ
หยิบเสร็จหมอดูเกิดอาการเหว
... ผมหยิบได้ เอซ 4 ใบติด ... ไม่ได้เล่นตุกติกอะไรนะ หยิบมั่วไปนั่นแหละแต่มันดั
ความน่าจะเป็นที่จะหยิบไพ่อ
หมอดูบอกก่อนไล่ว่าดวงแรงมา
อ้าว ... เวรกรรม กะว่าจะจัดหนักหน่อย ...
แต่ยังโอเคหน่อย เพราะตอนที่หมอดูบอกนังโหดเ
...
ต่อมาไม่นาน ดูท่านังโหดจะพยายามจะดูดวง
คิดๆดูก็แปลกดีนะ ทำไมถึงจะอยากรู้ด้วย ไอ้คนที่ไปหาเชื่อได้รึเปล่
สมมติว่าไปดูดวงแล้วหมอดูบอ
นังโหดพาไปหาหมอดูอีกเจ้านึ
ประโยคแรกที่ขำสัสๆเลยคือ ถามว่าวันเกิดวันที่เท่าไหร
นังโหดตอบไปว่า ... วัน XX เดือน YY ปี ZZ
ไอ้หมอดูแม่งก็พูดเพ้อเจ้อไ
เอ๊ะ ... แต่ก็ตรงซะเยอะนะ
พอมันพูดเสร็จผมก็บอกว่า วันเกิดจริงๆน่ะวันนึง วันเกิดตามบัตรน่ะอีกวันนึง
เอาล่ะสิ แม่ง หมอดูเงิบ ... ขำมาก
เพราะตอนที่นังโหดเกิด ... หมอที่ทำคลอดบอกว่าตายแน่ๆ ไม่รอดหรอก เพราะตัวเขียว หายใจริบหรี่ หัวใจไม่ค่อยเต้น
พอปู่กับย่าได้ยินแบบนั้นก็
วันเกิดจริงกับวันเกิดตามบั
และด้วยความเงิบของหมอดู ก็เลยไล่เราทั้งสองออกไป ไม่ดูดวงต่อ กล่าวหาว่ามาแกล้งกัน
ตอนนั้นแบบว่า เดินอออกจากร้าน หัวเราะท้องแข็ง แม่ง หมอดูหน้าตาตลกมาก เหมือนกับว่าอุตส่าห์ไปหาข้
...
หลังจากนั้นก็ล้มเลิกโครงกา
...
ผ่านไปอีกราวๆหนึ่งเดือน
ผมก็ชวนนังโหดมาอยู่ที่บ้าน
ก็มาอยู่บ้านเดียวกันซะเลย อะไรอะไรจะได้สะดวกหน่อย
เพราะยังไงๆ พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายก็รับรู้ร
แต่ก็มีกระแสมาบ้างนะว่าไม่
แต่ขออภัย ... ไม่สนล่ะ ช่างมันปากหอยปากปู …
...
การที่ได้ย้ายมาอยู่บ้านเดี
ด้วยความที่ระดับความใกล้ชิ
แต่ในอีกแง่หนึ่ง ใกล้ชิดกัน ก็ยิ่งเห็นความแตกต่าง ความไม่ดีของอีกฝ่ายมากขึ้น
ผมเองก็เริ่มกลับมาใช้นิสัย
กลับมาบ้านบางทีรองเท้าก็ไม
เสื้อผ้านี่ยิ่งหนัก กางเกงใน กางเกงสแล็ก อยู่ตั้งแต่หัวเตียงยันในคร
ส่วนเธอก็มีโผล่มาบ้าง อย่างเช่นเรื่องรองเท้าอลัง
หมาของเธอก็ด้วย ก่อนหน้านี้มันอยู่ที่แฟลต ก็โอเคไม่เท่าไหร่ แต่พอมาอยู่ด้วยกันนี่ แม่ง รู้ได้เลยว่าหมาพุดเดิลเป็น
เครื่องสำอางก็ด้วย โอ้โห จะมีอะไรขนาดนั้น ไปเป็นช่างทาสีบ้านเลยมั้ย มีครบทุกเฉดสี แถมยังมีอะไรอีกไม่รู้ แป้งนู่นนี่นั่น รองพื้น ครีม ฯลฯ สารพัดมาก จนทุกวันนี้ยังไม่อยากทำควา
แต่ก็อย่างที่เคยบอกไปว่า ไม่มีใครที่ไม่มีข้อเสีย หากรับข้อเสียอีกฝ่ายได้ จะทำให้อยู่ด้วยกันไปได้ตรา
และข้อเสียเหล่านี้ก็เป็นแค
...
..
.
หลังจากนั้นผ่านไประยะหนึ่ง
ขณะที่กำลังขับรถเดินทางอยู
เธอ ... แต่งงานกันมั้ย ... ผมถาม
...
..
.
พอก่อนละกันนะ พิมพ์ทันแค่นี้ ... แหะแหะ