แอบก็อบมาอ่านเอง จะได้อ่านง่ายๆ

11

# โศกนาฏกรรมรัก (ของหมอ-พยาบาล) ณ โรงบาลบ้านนอก # ตอนที่ 11 #

เท้าความเดิมจากตอนที่แล้ว ... นังโหดได้มาหาที่ห้องพักหมอเวร และได้นั่งคุยกันไปกินข้าวไป (ข้าวที่เธอซื้อมาให้เมื่อตอนเย็น) แต่เธอดันจับติดว่าไปหลอกเธอเรื่องอดนอนและกินข้าวคลุกมด ... เธอเลยหนีไป

เดี๋ยว! .... ผมเรียกเธอ
อย่าตามมา ... ไปนอนเถอะ ... เธอตอบแล้วก็เดินหนีไปเรื่อ
ผมรีบเดิมตามและคว้ามือเธอไว้
รอก่อนสิ ... คุยกันก่อนได้มั้ย ... ผมบอกเชิงขอร้อง
ไม่มีอะไรต้องคุย ... เธอตอบมา
มีสิ ... หันมานี่ก่อน ... ผมบอกเธอ
ไม่ ... เธอตอบ
ผมเลยดึงแขนเธอมาแล้วกอดไว้
... ใจเย็นๆ ... เราไม่เป็นไร ... แค่นี้เรื่องเล็กน่า ... ผมบอกเธอ
... เธอไม่ตอบอะไร
นะ ... วันหลังจะไม่โกหกแบบนี้อีกแล้ว ... นะ ... เราขอโทษนะ ... ผมบอกเธอ
สัญญา? ... เธอถาม
อือ ... สัญญา ... ผมบอก
ปล่อยเถอะ ... ไม่เป็นไรแล้ว ... คนอื่นมองอยู่ ... เธอบอกต่อ
อืมม์ ... ผมตอบแล้วก็ปล่อยตัวเธอ ... แต่ยังไม่ปล่อยมือ
กลับไปห้องพักเวรเถอะ ... เธอตอบ
ไปอยู่เป็นเพื่อนหน่อยได้มั้ย ... แบบว่ากลัวผีอ่ะ ... ผมบอกไป พยายามเปลี่ยนบรรยากาศ
ไม่อ่ะ ตัวเหม็น ... เธอบอก
เพิ่งอาบเมื่อวานเองนะ ... หรือตัวเธอเหม็น? ... ไหนลองดมดูหน่อยซิ ... ผมบอกเสร็จก็เอามืออีกข้างไปจับที่หลังหัวแล้วก็จูบไปที่ผมเธอ แล้วก็ปล่อยหัวเธอ
ไม่เห็นเหม็นเลย ... หอมออก ... ผมบอก
อย่าน่า ... บอกว่ามีคนอื่นดูอยู่ ... เธอบอกต่อ
อ้อ ... บอกว่าตัวเหม็น ไม่ใช่หัวเหม็นนี่นา ... สงสัยดมผิดที่ ... มาดมใหม่อีกที ... ผมบอกไปแล้วทำท่าจะเอามือจะไปรวบตัวเธอ
เธอดิ้น สะบัดมือ แล้วก็วิ่งไป ... เดี๋ยวถึงห้องแล้วจะโทรหานะ ... เธอหันมาบอก
โอเค ... แล้วจะรอนะ ... อย่าให้รอเก้อล่ะ ... ผมตะโกนบอก
...
แล้วผมก็เดินกลับ ... ระหว่างเดินกลับ ติดในใจว่า ไปห้องฉุกเฉินก่อนดีกว่า เผื่อมีเคสจะได้ไม่มารบกวนเวลาจะคุยโทรศัพท์
...
ห้องฉุกเฉิน ...
...
มีเคสมั้ย ... ผมถามพยาบาลนู่น
ไม่มีค่ะหมอ ... ไปพักเถอะค่ะ ... พยาบาลนู่น
อืม ... มีอะไรก็โทรตามนะ ... ผมบอกไป แต่ในใจคิดว่า อย่าโทรเลยนะ ขอร้องงงงงงงงง
ค่ะ ... พยาบาลนู่นตอบ
ผมก็หันหลังเดินกลับไปที่ห้องพักเวร
อย่าเค้ารอเก้อนะตัวววววววววววว ... เสียงพยาบาลนี่ ตะโกนมา
หัวหอมจังเลยยยยยยยยยยยยย ... เสียงพยาบาลนั่น เสริม
ผมรีบเดินหนีอย่างเร็ว ... แม่งโคตรอาย ... นี่มันแอบดูกันหมดเลยเรอะไง
...
พอถึงห้องพักแพทย์ ผมก็นอนรอโทรศัพท์ไปเรื่อยๆ จนเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมา … จากนังโหดนั่นเอง
... แล้วก็คุยโทรศัพท์กัน คุยสัพเพเหระ รวมถึงเรืองที่ถูกล้อเมื่อกี้ด้วย ... เราก็ได้วางแผนกันว่าจะเอาไงดี พรุ่งนี้ได้ดังทั้งโรงบาลแหงๆ เพราะเป็นแค่โรงบาลอำเภอเล็กๆเอง
... แต่สุดท้ายก็คงต้องยอม
... หลังคุยเรื่องนี้จบก็คุยเรื่องต่างๆไปเรื่อยๆ จนรู้ตัวอีกทีตอน 6 โมงเช้า ... หลับคาโทรศัพท์ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสติหายไปตอนไหน ...
ตื่นมาก็ไปแอบดูที่ห้องฉุกเฉิน ... ด้อมๆมองๆ ไม่กล้าจะเดินเข้าไปถามว่ามีเคสมั้ย ... ห้องฉุกเฉินว่าง คงไม่น่าจะมีเคส
...
แอบไปที่มอไซค์ แล้วก็ขับออกไปหาอะไรกินมื้อเช้า
...
ลองโทรหาดีกว่า
... ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด
ฮัลโหล หมอเหรอ? ... เธอตอบด้วยน้ำเสียงงัวเงีย
อ้าว ... หลับอยู่เหรอ ... งั้นนอนต่อเถอะ เดี๋ยวซื้อไก่ไปฝาก หรือว่าจะเอาอย่างอื่นมั้ย .... ผมถาม
ไปด้วยได้มั้ยอ่ะ ... เธอถาม
ก็ได้ เดี๋ยวไปรอใต้แฟลตนะ ... ผมตอบไปด้วยน้ำเสียงดีใจ
รอแปปนึงนะล้างหน้าแปรงฟันแปปนึง ... เธอบอก
อือ ... ผมตอบไป

... 15 นาทีต่อมา ...

มาแล้วค่ะ ... เธอเรียกผมพร้อมกับสะกิดที่หัวไหล่
อืมม์ ไปกินไรกันดี ... ผมตอบแล้วก็หันหน้าไป
...
เธอใส่เสื้อนอนผ้าลื่นๆไม่หนาซักเท่าไหร่ เสื้อก็ไม่บางจนเห็นไหนต่อไหน ... แต่พอจะทำให้นึกรูปร่างออก
กางเกงใส่แบบกางเกงขาสั้นเสมอหู ผ้ายืดๆ คล้ายๆกางเกงออกกำลังกายของผู้หญิง
ผมยุ่งๆนิดๆแต่ก็ไม่ได้ถึงกับรกมาก แต่ก็พอเดาไม่ยากว่าเพิ่งตื
...
NO! ไม่เอาชุดนี้ ... ไปเปลี่ยนชุดเลย ... ผมบอกทันทีที่เห็น ...พลังทำลายล้างสูงเกินไป
ทำไมล่ะ? ไม่โป๊ซักหน่อย ... เธอถาม
ไม่ได้ๆ ไปเปลี่ยนเถอะ ... ผมตอบ
งั้นรอแปปนึงนะ ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน ... เธอยอมแล้วเดินขึ้นบันไดไป
อือ ... กางเกงยาวๆ ใส่เสื้อคลุมมาด้วยนะ ... เอ่อ ... อากาศมันเย็นน่ะ ... ผมตะโกนบอกตามหลังเธอไป
...
สิบนาทีต่อมา
...
ได้ยัง ... ชุดนี้อะ ... เธอบอก
เธอมาเสื้อกีฬา ใส่เสื้อแจ๊คเก็ตของพยาบาลทับ กางเกงเป็นกางยีนส์สามส่วน
อือ ... ต้องแบบนี้สิ ... ผมบอกแล้วก้ยิ้มให้
... หมอนี่ก็แปลกดีนะ ... ฮิ ฮิ ... ไปหาอะไรกินกันดีกว่า ... เธอบอก
ขึ้นรถสิ ... ผมบอกเธอ
เดี๋ยวสิ รถมันใหญ่แล้วก็สูงด้วย ... เธอบอกทั้งๆที่พยายามยกขาขึ้นมาให้ได้ แต่ก็ไม่ถึง
จับไหล่เราแล้วก็ยกตัวขึ้นสิ ... ผมเสนอแนะไป นึกถึงตอนเล่นกระโดดยางตอนเด็กๆ
อึ๊บ ... อุ๊ย ... ขอโทษ ... เธอบอกเพราะเหวี่ยงขาแล้วมาโดนสีข้างผม
ผมเลยลงจากรถ ขึ้นแสตนด์ไว้ ... แล้วก็เอามือสอดใต้รักแร้เธอเพื่อยกขึ้นรถ
ไปกันได้แล้วสินะ 555 สูงเท่าไหร่เนี่ย ... ผมกวนไปแล้วก็ออกรถไป
ก็ 150 ได้มั้ง ... หมออ่ะ ... เธอถามบ้าง
วัดเมื่อ 2 ปีที่แล้ว 188 น่ะ ... ตอนนี้น่าจะ 190 ได้แล้วมั้ง ... ผมบอก
โห.... เธอคงจะตะลึง
150 เนี่ย เท่ากับเราตอน ป2. เลยนะ ไม่ต้องกังวลหรอก 555 ... ผมหยอกต่อ
… ระหว่างนั้นก็ขับรถออกไปเวียนหาร้านข้าวกินแถวๆตลาด ...
ถ้ามีลูกคงจะเป็นแบบคนปกตินะ ... เธอพูดขึ้นมา

... หือ? นี่คิดไปถึงมีลูกแล้วเหรอมึง? ... ผมคิดในใจ

อือ ชอบผู้หญิงตัวเล็กๆก็เพราะแบบนี้แหละ ... ผมตอบ
... เพี๊ยะ ... เสียงเธอตีเข้ากลางหลัง ...
... แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะหนังหนาอยู่แล้ว ...
เอาร้านนี้มั้ย ... เคยมากินกับพี่นู่นพี่นี่ อร่อยดีนะ ... เธอบอก
เอาสิ ... ผมตอบแล้วก็จอด ตรงหน้าร้านเกาเหลาเลือดหมูแผงลอยร้านหนึ่ง
เธอเอาไรอ่ะ ... ผมถาม
ธรรมดาถ้วยนึง ... เธอตอบ
ไปนั่งก่อนนะ เดี๋ยวเดินไปสั่งแปปนึง ... ผมบอก
... ธรรมดาถ้วยนึง ... พิเศษไม่เอาเซียงจี้ ม้าม ปอด ถ้วยนึง ... ข้าวสามถ้วย ... ผมเดินไปสั่งที่ป้าเจ้าของร้านแล้วก็กลับมานั่งกับนังโหดต่อ
แล้วก็นั่งคุยไปพลางๆ .... พอเกาเหลามา
อ่ะ ... อาวุธ ... ผมบอกพร้อมยื่นตะเกียบและช้อนให้ แล้วเธอก็รับ
ระหว่างที่กำลังทาน ... เห็นท่ากินของเธอแล้วรู้สึก ... ยังไงดีล่ะ ... สงสารปนสมเภชมั้ง
ทำไมกินแบบนั้นอ่ะ ... กินกับตะเกียบต้องพุ้ยข้าวแบบนี้ ... ผมบอกแล้วทำให้ดู
แล้วเธอก็ทำตาม ... เหอะ ... แรงกว่าเดิม
กินกับช้อนดีกว่ามั้ง ... กินกับตะเกียบมันต้องฝึกนิดนึงก่อน ... ผมแนะนำ
แต่เธอก็ยืนยันจะกินกับตะเกียบต่อ ...
พุ้ยข้าวไป 100 เม็ด ร่วงลงในถ้วย 80 หล่นลงข้างถ้วย 15 เข้าปากไปแค่ 5
...
แต่ก็น่ารักดี ... 555 Bias สุดๆ
...
หลังจากกินกันเสร็จก็ไปขับรถเที่ยวทั่วๆ (ตอนขึ้นรถก็เหมือนเดิมคือต้องยกขึ้น) แล้วก็กลับมาที่โรงบาลกัน
... แหม่ ฟินแต่เช้า
แล้วก็แยกย้ายกันที่ใต้แฟลต
...
วันนั้นทั้งวันเรียกได้ว่าทำงานคนละฟีลกับเมื่อวาน ... วันนี้แฮปปี้สุดๆ คนไข้กวนๆวันนี้ไม่โดนของ
ถึงแม้จะมีโดนล้อบ้าง แต่ก็ไม่เป็นไร วันนี้อารมณ์ดี
...
แล้วก็หมดเวลาราชการที่ 4 โมงครึ่ง นังโหดอยู่เวรบ่ายต่อ ส่วนผมไม่ได้อยู่เวร
...
กินไรเหรอ เดี๋ยวซื้อมาให้ … ผมถามเธอ
อะไรก็ได้ กินได้หมดแหละ ... เธอตอบ
... จู่ๆก็นึกอะไรบางอย่างออก ...
งั้นรอก่อนนะ อย่าเพิ่งกินไรล่ะ ... ผมบอก
อื้อ แล้วจะรอนะ ... เธอตอบแล้วก็หยิบใบสั่งยาของคนไข้ที่รออยู่ไปทำงานต่อ
...
วันนี้จะแสดงเสน่ห์ปลายจวัก!
เมนูพิเศษ ... อะไรดี

เปิดตู้เย็นเพื่อสำรวจว่ามีอะไรเหลืออยู่บ้าง
ไข่ไก่ 2 ลูก ... แฮม ... ไส้กรอกหมู ... หมด ที่เหลือเป็นขนม
... เอาไงดี ... แล้วก็นึกไปพลางๆ
ช่วงนี้ยังนึกไม่ออก หุงข้าวไปก่อน ... อย่าลืมว่าหุงข้าว ต้องจำไว้ข้อเดียวพอ ...
ไปเตรียมเตา ... แต่เป็นเตาถ่าน ปกติซื้อไว้ย่างหมูกินอย่างเดียว แต่ไม่มีเตาแก๊ส ก็ต้องเอาแบบนี้แก้ขัดไปก่อ
ไปรื้อๆกองสิ่งของข้างบ้าน รู้สึกเหมือนจะมีถ่านที่เหลือๆอยู่ และน่าจะมีขี้ไต้เหลืออยู่นิดหน่อย
รีบก่อไฟ ใช้วิชาลูกเสือให้เป็นประโยชน์ ... หลังจากพยายามไม่นานก็ก่อไฟเสร็จ

ระหว่างที่รอไฟ ก็ไปเตรียมแฮม กับใส้กรอก สับเป็นชิ้นเล็กๆ

เอาไข่มาตีให้สวยเป็นเนื้อเดียวกัน ใส่เกลือหยิบมือเดียวพอ แล้วก็ไม่ต้องใส่อะไรทั้งนั้น
รอข้าวสุกได้ที่ ก็เอามาใส่ในถ้วยเดียวกับไข่ แต่ข้าวต้องมากกว่าไข่สักหน่อยนะ
แล้วก็กวนๆๆๆๆให้เข้ากัน

เอาน้ำมันใส่กะทะ ใส่น้ำมันพืชนิดๆแล้วกลิ้งให้เคลือบทั่วกระทะ
รอให้ไฟร้อนจัดๆ ก็เอาข้าวคลุกไข่ใส่เข้าไป
จังหวะนี้ ต้องผัดเร็วๆอย่าให้นิ่งเด็ดขาด ใช้เวลาแค่ 10-20 วินาทีก็พอ
จะได้ข้าวที่เคลือบด้วยไข่บางๆทุกเม็ด แยกออกจากกัน ไม่เป็นก้อน เป็นสีทองสวยเลยล่ะ
คราวนี้ก็เอาแฮมกับใส่กรอกใส่ตามไป ผัดให้พอร้อน
เป็นอันเสร็จพิธี ... ใครอยากลองก็ได้นะ เพราะง่ายมาก ระวังแค่เกลืออย่ามากหรือน้อยไป
...
เอาข้าวใส่ทับเบอร์แวร์ แง้มไว้นิดนึง ทำไปสองกล่อง กะว่ากินด้วยกัน
แล้วก็รีบไปเสิร์ฟทั้งๆที่ร้อนๆ พร้อมน้ำเย็นๆขวดนึง
...
ข้าวมาแล้วววววววว ... ผมตะโกนบอกหน้าห้องฉุกเฉิน หลังจากที่ดูคร่าวๆแล้วว่าไม่น่าจะมีเคส
...
เธอว่างยัง กินข้าวด้วยกันมั้ย? ผมถามเธอ
ทำเองเลยเหรอ? ทำเป็นด้วยเหรอ? เธอถาม
ลองดูเหอะ ... ผมตอบ
แล้วเธอก็บอกเพื่อนร่วมเวรว่าขอตัวไปกินข้าวแปปนึง

เราเดินไปกินกันที่โต๊ะไม้หินอ่อนตัวเดิม
เธอทำได้ไง? เค้าเรียกว่าอะไร? ข้าวผัดใช่ป่าว? เธอถาม
ข้าวผัดไข่ธรรมดาเนี่ยแหละ แต่ใส่แฮมกับใส่กรอกน่ะ ... กินดูสิ ... อ้ามมมมมม ผมตอบแล้วก็ป้อนเธอ
อ้ำ! .... อร่อยอ่ะ ... วันหลังทำให้กินอีกได้มะ ... เธอถาม
เอาดิ อยากกินเมื่อไหร่ก็บอกได้เลย ... ผมตอบ ... หรือจะให้ป้อนด้วย?

แล้วเราก็นั่งกินกันจนเสร็จ ... เธอก็ขอตัวไปทำงานต่อ ... พร้อมกับหยิบทับเบอร์แวร์ไปล้างด้วย
เธอเดินไปประมาณ ห้าเมตรก็เดินกลับมา
ขอบคุณมากนะ ... เธอบอก
ไม่เป็นไร ... ผมตอบ
เดี๋ยวลงเวร จะไปหานะ ... เธอบอก
อือ ... หือ? ... อะไรนะ? ... ผมไม่เชื่อหูตัวเอง ถามย้ำอีกครั้ง
... ไปละ ... เธอบอกแล้วก็เดินไป
....
...
..
.
หมูหามรอบสาม!!!
...
อย่างนี้มันต้องยืดอกพก...พุง
...
ว่าแล้วก็ต้องไป ........ เซเว่น ... ที่เพิ่งเปิดใหม่
...
..
.
ติ๊ง ติ่ง ...
...
หันไปทางเคาน์เตอร์ ... เล็งเป้าหมายเรียบร้อย ... ถุงกันน็อค
...
แต่ ไปเดินดูแถวๆแปรงสีฟัน ยาล้างหน้าดูเชิงก่อน .... มีคนรู้จักมั้ย มีคนโรงบาลมั้ย
... จนแน่ใจว่าไม่มีแน่ๆ จึงหยิบเอาสบู่ไปก้อนนึงแล้วก็ตรงไปที่เป้าหมายบนเคาน์เตอร์
...
หมอ สวัสดีค่ะ ซื้ออะไรเหรอคะ ... เสียงคุณป้าอายุราวๆ 50 ปีเอ่ยทัก
แต่ ... ได้ยินกันทั้งร้าน
....
มาซื้อสบู่ครับ 555 ป้ามาทำไรครับ... ผมตอบแต่ในใจนึกว่า แม่ง ไม่น่าเป็นหมอเลย ... ตอนเรียนเดินเข้าไปหยิบแบบสบายๆ แต่พอเป็นหมอกลับลำบากชิบหอ
... ยืนคุยกับป้าแปปนึง ป้าก็เดินออกไป ... แต่... ป้าเป็นใครน่ะ?
หันไปหาเป้าหมาย ... ผิวเรียบละกัน รุ่นเพอร์ฟอร์มานซ์ ดีกว่า ...
แต่ตาเหลือบไปเห็นพนักงานเซเว่นมอง .... มองแบบว่า ... เป็นหมอใช่มั้ย? หมอเอาไปทำอัลไล???
... แม่ง
พอ... ล้มเลิกโครงการ เดินเอาสบู่ไปวางแล้วก็ออกจากร้านไป
...
พนักงานเซเว่นน่าจะเข้ากะเหมือนๆพยาบาลรึเปล่า?
ถ้ารอเปลี่ยนผลัดก็น่าจะไม่ทันการ
...
ร้านยาไง
...
แต่ร้านเจ้าหน้าที่โรงบาลทั้งเพ
...
..
.
จบ ... โครงการหามหมู ...
...
..
.
ยัง! ถุงยาง เอ้ย ถุงชูชีพฟรีของฝ่ายเวชฯไง!
...
..
. พอก่อน เอาไว้ต่อนะ เพลียจุงเบยยยยยยย