แอบก็อบมาอ่านเอง จะได้อ่านง่ายๆ

12

# โศกนาฏกรรมรัก (ของหมอ-พยาบาล) ณ โรงบาลบ้านนอก # ตอนที่ 12 #

เท้าความเดิมตอนที่แล้ว ... เธอบอกว่าหลังจากลงเวรบ่ายตอนเที่ยงคืนครึ่งจะมหาที่บ้าน ดังนั้นหน้าที่สุภาพบุรุษที่ดีคือการรู้จักอุปกรณ์ป้องกัน ... แต่มันไม่ง่ายเลย ...

ความคิดแว๊บขึ้นมาในหัว ... ที่นั่นน่ะเอง ... ที่ที่มีวันพีซอยู่
...
เซตล็อคโพสเรียบร้อย มุ่งหน้าสู่วันพีซ
...
แอบไปจอดรถข้างๆโรงบาล ใกล้ๆฝ่ายเวชฯ ทำท่าเหมือนกับว่าจะไปทำธุร
เดินเฉี่ยวไปเฉี่ยวมา
มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งอยู่ในห้อง
...
ทำไงดี?
...
จะอ้างแบบไหนดีเพื่อให้ได้วันพีซมาครอง ... บอสตัวสุดท้ายแล้ว(มั้ง)
...
เอาไปแจกเด็กนักเรียน? ...... สองทุ่มเนี่ยนะ
เอาใช้เอง? ....... ยิ่งเป็นข่าวลืออยู่ด้วยซวยแหงๆ
เอาไปทำไรดี .....
....

..
เอาไปสอนไง! เพื่อการศึกษา ... เอาไปเตรียมบทเรียนก่อน ... อืมม์
เหมาะมากๆ
เอาล่ะ ข้ออ้างพร้อม น้องชายพร้อม ... เดินไปหาเจ้าหน้าที่คนนั้น
...
เอ่อ ... พี่ครับ ผมจะมาขอถุงยางไปเตรียมสอนนักเรียนหน่อยครับ … ผมพูดและพยายามตีหน้าให้เนียนที่สุด
...ขอซัก 4-5 อันนะครับ เผื่อไว้ ... ผมพูดต่อ
ได้เลยหมอ ... เดี๋ยวพี่หยิบให้ ... พี่จนท.คนนั้นตอบแล้วก็เดินไปที่ตู้เก็บอุปกรณ์
...เยส! วันพีซ! กำลังจะมาแล้ว ... สู่จักรวาลอันเวิ้งว้าง!

..
.
ทำไมไม่มา? ผมนั่งรออยู่ราวๆ 5 นาที

แล้วก็เดินเข้าไปถามพี่จนท.
หาเจอยังครับ .... มีรึเปล่า? ผมถาม
แปปนึงนะหมอ ... สงสัยอนามัยเค้าเบิกไปหมดแล้ว ... พี่จนท.ตอบมา
...
..
.
หมูตัวนี้ ... มันอึดชิบหาย ...

สงสัยต้องกินดิบๆ! วิญญาณสัตว์กินเนื้อเข้าสิง
...
แล้วก็เดิน ค. ตก (อ่านว่า เดินคอตก) กลับไปที่รถแล้วก็กลับบ้าน
...
ไปเล่นเกมส์รอพลางๆละกัน
...
และแล้วก็เวลาเที่ยงคืนครึ่ง ... เสียงโทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้
รีบกระโดจาก X-box 360 ทันที ...
ฮัลโหล ... ตัวเองเหรอ ... อยู่ไหนแล้ว … เดี๋ยวไปเปิดประตูให้นะ … ผมรีบพูดทันที
... โหล ... หมอเหรอ ... พอดีเรามีรีเฟอร์นะ ... คงไม่ได้ไปแล้วล่ะ ... แค่นี้นะ คนไข้ใส่ทิวบ์ ... เธอตอบ
...ตู๊ดตู๊ดตู๊ดตู๊ด

..
.
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!
กะว่ากินดิบๆยังไม่ได้เลยเหรอวะเนี่ยยยยยยยยยยยยยยยยย!

..
.
วันต่อมา ...
และ หลายวันผ่านไป
กิจวัตรต่างๆก็ดำเนินไปปกติ ... โอกาสจะหามหมูก็ไม่มีเลย
จนกระทั่งวันหนึ่ง
...
เธอ ... พรุ่งนี้เราจะกลับบ้านอ่ะ ... พอดีแม่ให้ไปเอาของ ... นังโหดพูดขึ้นระหว่างกินข้า
ได้สิ ... จะให้ไปด้วยป่าว? ... ผมถาม
ไปด้วยได้มั้ย ... แม่บอกว่าอยากเจอด้วย ... เธอตอบ
อื้อ ... บ้านแม่อยู่แถวไหน? ผมถาม
ก็ห่างจากโรงบาลไป 30 กิโลได้ ...เธอตอบ
เอาสิ จะไปตอนไหนก็บอกนะ พรุ่งนี้วันหยุด ไม่ได้อยู่เวรด้วย ... ผมบอก
...
วันต่อมา
... ถามก่อน ... คุณเคยไปบ้านแฟนมั้ย? โดยเฉพาะไม่เคยเจอกันมาก่อน ...
สิ่งแรกที่กลัวคือกลัวพ่อแม่เค้าจะไม่ให้คบกัน แต่ดูท่าทางนังโหดแล้ว ต่อให้พ่อแม่ห้ามก็ไม่น่าจะฟังซักเท่าไหร่
สิ่งที่กลัวต่อมาคือ กลัวเค้าจะไม่ชอบ หรือ จะไปทำอะไรแปลกๆเข้า ... อันนี้แหละที่กลัวจริงๆ เพราะปกติแล้วผมเป็นคนที่ไม่ค่อยมีสัมมาคาราวะซักเท่าไหร่เลย แถมบางที่พูดตรงๆก็บ่อย ญาติผู้ใหญ่ของตัวเองก็หน้าแหกกันไปเยอะแล้ว ... ฉะนั้น ... นี่แหละที่กลัว
...
เช้าวันเสาร์ ... เวลาประมาณ 10 โมง ... ก็ออกเดินทางกันเพื่อไปบ้านแม่ของนังโหด
ระหว่างทางถามนังโหดตลอดว่าแม่เป็นคนยังไง ชอบอะไรมั้ย ซื้อไรไปฝากดีมั้ย ต้องทำตัวแบบไหน พูดกลางหรือพูดใต้เลย ฯลฯ
ถามซะจนนังโหดน่าจะเริ่มรำคาญ ก็เลยหยุดถามไป
... จนเดินทางมาถึงบ้านแม่นังโห
จอดข้างหน้านี้นะ ตรงที่ต้นไม้ใหญ่ๆนั่นน่ะ ... เธอบัญชา
อื้อ ... หลังนั้นเหรอ ... ผมถาม
อือ ... เธอตอบ
ทำไมรถเยอะจัง มีงานเหรอ? ... ผมถาม
ก็ป่าว สงสัยญาติๆมาบ้านมั้ง ... เธอตอบ
... แล้วก็จอดรถ ... เดินลงไป ... พยายามปั้นหน้าสุดๆว่าเป็นคนดี เรียบร้อยนะครับ!
แล้วเธอก็พาเดินไปหาแม่เธอ ...
ระหว่างทางเธอก็เจอคนรู้จัก ... แล้วก็แนะนำให้รู้จักกับผม
...
สิ่งที่น่ากลัวแต่ไม่ได้คาดคิดมาก่อนคือ ...
...
..
.
แต่ละคนคือคนที่ผมเคยตรวจแถมยังถูกผมสอน/เอ็ด ที่โรงบาลมาแล้วทั้งนั้น ...
ความทรงจำหวนไปถึงห้องตรวจ ...
ป้าคนนั้นเป็นเบาหวาน ไม่คุมให้ดี โดนจัดชุดใหญ่
ลุงคนนั้นเป็นตับแข็งยังกินเหล้าอยุ่ ก็โดนชุดใหญ่กว่า
น้าคนนั้นเมาขับรถจนเกิดอุบัติเหตุ ไม่ยอมสวมหมวก ตอนมาโรงบาลไม่ยอมทำแผล แถมไม่ยอมเสียตังค์ก็โดนไปไม่น้อย
ยายคนนั้น มีโรคเรื้อรัง กินยาบ้างไม่กินยาบ้าง โดนสอนไปยาวๆแถมนัดถี่ๆ
พี่สาวคนนั้น มาคุยโทรศัพท์ในห้องตรวจ ก็ถูกตะเพิดให้ไปเข้าคิวใหม
...
..
.
นี่มันดงคู่อรินี่หว่า ... เอาน่ะ ... เค้าคงจำเราไม่ได้มั้ง ... (คงใช่หรอก!!!) … แต่
ญาติๆทั้งผู้ใหญ่และเด็กของเธอเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ... ยกมือไหว้ผมก่อน ...เพราะทักคนนู้นอยู่ดีๆ คนนี้ก็เข้ามา แล้วคนโน้นก็มาอีก ...

เหยดดดดดดดดดดด .... ด ... ทำตัวไม่ถูก
...
หมอ ... คนนี้แม่เรา ... เธอบอก
ผมเลยหันขวับ ... สวัสดีครับแม่ ... พยายามไหว้ให้เป็นกุลสตรีมากที่สุด
เข้ามาในบ้านก่อนสิ
ในบ้านก็มีญาติอีกหลายๆคนนั่งอยู่ วนลูปเหมือนตอนข้างต้นเดี๊ยะๆ
...
นี่ ... เธอ ... เค้ามาทำไมกันน่ะ ... บ้านเธออยู่กันเยอะอย่างนี้เลยเหรอ ... ผมถาม
สงสัยแม่แกนั่นแหละ ... ไปบอกว่าเราจะพาลูกเขยที่เป็นหมออยู่ที่โรงบาลมา ... เธอตอบ
เฮ้ย ... นี่มันไม่ใช่แล้วอ่ะ ... เอาของแล้วยัง? ผมถาม
นั่งรอนี่ก่อนนะ เดี๋ยวไปถามแม่แปปนึง ... พอดีแม่น่าจะไปเอาของอยู่หลังบ้าน … เธอบอกแล้วก็ลุกไป
...
ลูกหมอ ... เป็นคนที่ไหน? ยายคนนึงถามมา
เป็นแฟนกันนานแล้วเห้อ? ... ป้าอีกคนก็ถาม
เป็นหมอที่โรงบาลนี้ใช่ม้าย? ลุงคนนึงก็ถามอีก
หมออายุเท่าไหร่แล้ว? หมอจบที่ไหน? หมอรู้จักคนนั้นม้าย? หมอกินข้าวแล้วยัง? ยายเจ็บตรงนี้เป็นไหรไม่รู้? หมอกลับตอนไหน? หมอ หมอ หมอ ฯลฯ
คำถามเป็นสิบเป็นร้อยตามมาตอบเท่าที่ฟังทัน บางอันตอบแล้วก็ถามอีกเพราะมันเจี๊ยวจ๊าวซักหน่อย แถมบางทีก็เป็นคนแก่หูตึง
...
พอ! พอได้แล้ว ค่อยแหลงกันวันหลัง หมอต้องไปทำงานต่อหลาว ... นังโหดมาหยุดคลื่นคำถามไว้
หวัดดีนะจ้ะ ลุง ป้า ยาย ฯลฯ ... หมอขอตัวก่อนนะ ... ผมตอบ
เป็นสุขเป็นสุขนะลูกเห้อ รักกันนานๆ มีหลานให้ยายไวๆ ... ยายคนนึงจับแขนแล้วพูดออกมา
ยาย ... ยังไม่ได้แต่งกันที ... ไปก่อนนะยาย ... นังโหดบอกแล้วก็มาแกะแขน พาผมออกไปสวัสดีแม่ของเธอ แล้วก็พาไปที่รถ
ตอนเดินขึ้นรถก็เหมือนตอนขามา ... หวัดดีทักทายยังกะเป็นสส.
แล้วก็ขึ้นรถกลับ ...
มาเอาไรเหรอ? ... ผมถามเธอบนรถ
เอากับข้าวน่ะ ... เธอบอก
อ๋อ ... ผมตอบ
แล้วเรื่องที่ไปเที่ยวสัปดาห์หน้าตกลงว่าแลกเวรได้แล้วยัง? ผมถาม
อื้อ ... ได้แล้วนะ ... จะไปที่ไหนเหรอ? เธอถาม
ก็ไปขนอม ... นครฯน่ะ ที่เคยบอกว่าทะเลสวย เป็นเหมือนหาดส่วนตัว ผมตอบ
ก็ดีนะ ไม่ได้ไปทะเลตั้งนานแล้ว แต่ที่ขนอมมีแบบนั้นด้วยเหรอ เธอถามต่อ
อือ น่าจะมีที่เดียวนี้แหละ น่าจะคล้ายๆไร่เลย์สมัยก่อน แต่เสียอยู่อย่างนึง ผมตอบ
อะไรเหรอ?เธอถาม
ก็ไม่มีทีวี ไม่มีตู้เย็น ไม่มีแอร์ คลื่นโทรศัพท์ก็ไม่ค่อยดี แถมทางไปก็ต้องขึ้นเขาทางลูกรังน้ำเซาะ ... ลำบากหน่อยแหละ ... ผมตอบ
โห ... แต่ก็ไม่เป็นไรหนิ ... จะได้อยู่กันสองคน ... เธอตอบ
อัยยะ ... มาหอมแก้มทีดิ๊ ... ผมตอบพร้อมกับชะลอเพื่อจอดรถแล้วก็จุ๊บแก้มไปหนึ่งที
...
..
.
สัปดาห์ต่อมา ...
... พรุ่งนี้ละกันนะ ... เที่ยงๆ บ่ายๆ เย็นๆ ไม่ก็ดึกๆ